Editor Talk

Google

รับซื้อ,ขาย,แลกเปลี่ยนแสตมป์ ทุกรุ่นทุกแบบ แลกเปลี่ยน พระเครื่อง , เงิน , ธนบัตร , เหรียญที่ระลึก

Tel : 081-5313435
Mail : somchaila@gmail.com
LINE : somchaila
FB : https://www.facebook.com/p.som.lasutthi

วันพุธที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2551

30 เมษายน 2551 เป็นวันสุดท้ายที่ไปรษณีย์ไทยจะ รับ/ส่ง โทรเลข

โทรเลข
โทรเลข (telegraph) คือ ระบบโทรคมนาคมซึ่งใช้อุปกรณ์ทางไฟฟ้าส่งข้อความจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง เดิมส่งโดยอาศัยสายตัวนำที่โยงติดต่อถึงกันและอาศัยอำนาจแม่เหล็กไฟฟ้าเป็นหลักสำคัญ แต่ระยะหลังมีการใช้วิธีการส่งไร้สาย ที่เรียกว่า วิทยุโทรเลข (radio telegraph, wireless telegraph หรือ continuous wave ย่อว่า CW)

โทรเลขตามสาย
ระบบโทรเลขตามสายระบบแรกที่เปิดให้บริการทางการค้าสร้างโดย เซอร์ ชาร์ลส์ วีทสโตน (Sir Charles Wheatstone) และ เซอร์ วิลเลียม ฟอเทอร์กิลล์ คุก (Sir William Fothergill Cooke) และวางสายตามรางรถไฟของบริษัท Great Western Railway เป็นระยะทาง 13 ไมล์ จากสถานีแพดดิงตัน (Paddington) ถึง เวสต์เดร์ตัน (West Drayton) ในอังกฤษ เริ่มดำเนินงานเมื่อวันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2382 ระบบนี้ได้มีการจดสิทธิบัตรเมื่อ พ.ศ. 2380ระบบโทรเลขนี้พัฒนาและจดสิทธิบัตรพร้อม ๆ กันในประเทศสหรัฐอเมริกาในปี พ.ศ. 2380 โดย แซมูเอล มอร์ส (Samuel Morse) เขาและผู้ช่วยคือ อัลเฟรด เวล (Alfred Vail) ประดิษฐ์รหัสมอร์สสายโทรเลขข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกสร้างเสร็จสมบูรณ์เมื่อ พ.ศ. 2409 ทำให้สามารถส่งโทรเลขข้ามมหาสมุทรระหว่างยุโรปและอเมริกาเป็นครั้งแรก ก่อนหน้านั้นมีความพยายามสร้างในปี พ.ศ. 2400 และ 2401 แต่ก็ทำงานได้ไม่กี่วันหรือไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่จะเสีย การศึกษาสายโทรเลขใต้น้ำทำให้เกิดความสนใจการวิเคราะห์เรื่อง transmission line ทางคณิตศาสตร์ในปี พ.ศ. 2410 เดวิด บรูคส์ (David Brooks) ระหว่างที่ทำงานให้กับบริษัทรถไฟ Central Pacific Railroad ได้รับสิทธิบัตรสหรัฐอเมริกาหลายฉบับเกี่ยวกับการปรับปรุงฉนวนสำหรับสายโทรเลข สิทธิบัตรของบรูคส์มีส่วนสำคัญในงานสร้างทางรถไฟข้ามทวีปสายแรกของอเมริกาความก้าวหน้าที่สำคัญอีกด้านของเทคโนโลยีโทรเลขเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2435 เมื่อ โทมัส เอดิสัน (Thomas Edison) ได้รับสิทธิบัตรสำหรับโทรเลขสองทาง (two-way telegraph)

วิทยุโทรเลข
นิโคลา เทสลา (Nikola Tesla) และนักวิทยาศาสตร์และนักประดิษฐ์อื่น ๆ แสดงประโยชน์ของเทคโนโลยีไร้สาย วิทยุ และวิทยุโทรเลข ตั้งแต่ช่วงคริสตทศวรรษ 1890 เป็นต้นมา กูกลีเอลโม มาร์โคนี (Guglielmo Marconi) ส่งและรับสัญญานวิทยุสัญญานแรกในประเทศอิตาลีในปี พ.ศ. 2438 เขาส่งวิทยุข้ามช่องแคบอังกฤษในปี พ.ศ. 2442 และข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกในปี พ.ศ. 2445 จากอังกฤษถึงเมืองนิวฟันด์แลนด์วิทยุโทรเลขพิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพในการกู้ภัยทางทะเล โดยสามารถติดต่อระหว่างเรือ และจากเรือถึงฝั่ง

ส่วนประกอบของเครื่องรับส่งโทรเลข
- แบตเตอรี่
- คันเคาะ หรือ เครื่องส่ง
- เครื่องรับ
- สายไฟ

หลักการทำงานของเครื่องส่งและเครื่องรับโทรเลขหลักการทำงานของเครื่องส่งและเครื่องรับโทรเลข คือ เมื่อกดคันเคาะของเครื่องส่งให้วงจรไฟฟ้าปิด กระแสไฟฟ้าจะไหลเข้าไปในขดลวดของเครื่องรับ ทำให้ขดลวดของเครื่องรับเกิดสนามแม่เหล็ก จึงดูดแผ่นเหล็กมากระทบแกนเหล็ก ทำให้เกิดเสียงที่มีจังหวะเดียวกับคันเคาะ การปิดเปิดวงจรทำให้เกิดเสียงเป็นสัญญาณโทรเลข แล้วจึงแปลงสัญญาณโทรเลขให้เป็นข้อความ โดยกำหนดรหัสในโทรเลขไว้ 2 ลักษณะ คือ เคาะแล้วกดไว้ (กดยาว) และ เคาะแล้วปล่อย (กดสั้น)เนื่องจากโทรเลขประสบปัญหาความไม่สะดวกในการที่ต้องเสียเวลาแปลรหัส จึงทำให้มีการประดิษฐ์โทรพิมพ์ขึ้นมาใช้แทนโทรเลข

ข้อดีและข้อเสียของโทรเลข
ข้อดีของโทรเลข คือ
- สามารถส่งข่าวสารและข้อมูลไปได้ในระยะทางไกลๆ
- ประหยัดค่าใช้จ่าย เพราะสามารถใช้ปริการโทรเลขได้ในราคาถูก
ข้อเสียของโทรเลข คือ
- ต้องแปลรหัสโทรเลขทั้งขณะส่งและขณะรับ ทำให้เสียเวลา
- หากแปลรหัสผิดอาจทำให้ข่าวสารและข้อมูลนั้นๆมีใจความเปลี่ยนไป

โทรเลขในประเทศไทย
เริ่มแรกเมื่อวันที่ 5 พ.ค. 2412 ในสมัยรัชกาลที่ 5 ทรงอนุมัติให้ชาวอังกฤษจัดตั้งบริษัทก่อสร้างและบำรุงรักษาทางโทรเลขตามคำเสนอขอ แต่การดำเนินงานกลับล้มเหลวเมื่อ พ.ศ. 2418 สมัยรัชกาลที่ 5 กรมกลาโหมดำเนินการสร้างทางสายโทรเลขสายแรกจากกรุงเทพมหานครไปปากน้ำ หรือ จ.สมุทรปราการ ในปัจจุบัน โดยวางสายเคเบิลโทรเลขใต้น้ำต่อออกไปถึงกระโจมไฟนอกสันดอนปากแม่น้ำเจ้าพระยา รวมระยะทาง 45 กิโลเมตร เพื่อใช้ในการส่งข่าวสารทางราชการเป็นหลักพ.ศ. 2421 กรมกลาโหมได้สร้างทางโทรเลขสายที่สอง จากกรุงเทพฯ ถึงพระราชวังบางปะอิน และได้ขยายสายออกไปถึงกรุงเก่า (จ.พระนครศรีอยุธยา)ต่อมาปี พ.ศ. 2426 เริ่มสร้างทางใช้ลวดเหล็กอาบสังกะสีเป็นสายแรกของกรุงเทพฯ ผ่านปราจีนบุรี กบินทร์บุรี อรัญประเทศ ศรีโสถณ และคลองกำปงปลัก ในจ.พระตะบอง (สมัยนั้นยังเป็นของสยาม) ได้เชื่อมต่อกับสายโทรเลขอินโดจีน ไซง่อนซึ่งเป็นสายแรกที่ติดต่อกับต่างประเทส และในวันที่ 26 ก.ค. 2426 ได้เปิดโอกาสให้ประชาชนได้ใช้บริการโทรเลขเมื่อมาถึง พ.ศ. 2440 กรมโทรเลขได้สร้างทางสายกรุงเทพฯ แม่สอด จ.ตาก เพื่อไปต่อกับสายโทรเลขของอังกฤษไปเมืองมะละแหม่ง และย่างกุ้ง และได้สร้ายทางโทรเลขจากกรุงเทพฯ เพชรบุรี ชุมพร ทุ่งสง หาดใหญ่ และสงขลา และในปีพ.ศ. 2441 ได้สร้างสายย่อจากสงขลาไปไทรบุรี (ปัจจุบัน คือ รัฐเกดะห์ ประเทศมาเลเซีย) และกัวลามุดา เพื่อเชื่อมต่อกับสายโทรเลขของอังกฤษไปปีนังและสิงคโปร์ในปีพ.ศ. 2496 นายสมาน บุณยรตพันธุ์ นายช่างโทรเลขได้สร้างเครื่องโทรพิมพ์ภาษาไทยได้สำเร็จโดยคิดระบบกลไก หรือ Spaceing Control Mechanism ต่อมาได้ประดิษฐ์เพิ่มเติมโดยให้เครื่องทำงานได้ทั่งสองภาษา (ไทยและอังกฤษ) ให้ชื่อว่า เครื่องโทรพิมพ์ไทยแบบ S.P. โดยกรมไปรษณีย์โทรเลขรับรองเมื่อปี พ.ศ. 24981 ก.พ. 2500 กรมไปรษณีย์โทรเลขสั่งสร้างเครื่องโทรพิมพ์ไทยจากประเทศญี่ปุ่นเข้ามาใช้งานเป็นรุ่นแรกระหว่างกรุงเทพฯ-นครสวรรค์ กรุงเทพฯ-อุตรดิตถ์-เชียงใหม่ หลังจากนั้นได้ใช้เครื่องโทรพิมพ์ออกไปทั่งประเทศปี 2503 ได้มีการปรับปรุงบริการให้ทันสมัยโดยจัดชื้ออุปกรณ์ใหม่ เช่น เครื่องส่งและเครื่องรับวิทยุความถี่สูง เครื่องโทรพิมพ์ที่ใช้งานโทรเลขแบบต่างๆ เปิดการใช้งานรับส่งโทรเลขติดต่อกับต่างประเทศด้วยวงจร HF1 ARQ โดยประเทศแรกที่ติดต่อด้วยวงจรนี้คือประเทศญี่ปุ่นนับตั้งแต่ปี 2496 กรมไปรษณีย์โทรเลขได้จัดตั้งสถานีวิทยุคมนาคมขึ้นในจังหวัดและอำเภอต่างๆ เป็นจำนวนทั้งสิ้น 50 สถานีจนกระทั่งพ.ศ. 2520 กรมไปรษณีย์โทรเลขได้โอนส่วนปฏิบัติการให้บริการโทรคมนาคมของประเทศ รวมถึงบริการโทรเลขไปอยู่ในความรับผิดชอบของการสื่อสารแห่งประเทศไทย ซึ่งภายหลังเปลี่ยนมาเป็น กสท บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือแคท เทเลคอม (CAT Telecom) และยกเลิกบริการโทรเลข ตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2551 เวลา 20.00 น

ขอขอบคุณ
ข้อมูลจาก http://th.wikipedia.org

Thai Baht... ways to Happy and earn money